ASA Design Awards
ตามที่สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ดำเนินการจัดการคัดเลือกผลงานสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี 2565 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมผลงานทางสถาปัตยกรรมที่มีคุณภาพ และประชาสัมพันธ์ผลงานให้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณะ
วันนี้จะมาแนะนำผลงานรางวัลเหรียญเงิน สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภท ความยั่งยืน ชุมชน สิ่งแวดล้อม สังคม
โครงการ โรงแรม เดอะ โมทีฟส์อีโค่ โฮเทล จันทบุรี
( The Motifs Eco Hotel Chantaburi )
แนวความคิดในการออกแบบโครงการ
- โรงแรมได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมบ้านแถวในชุมชนริมน้ำจันทบูร : นําลักษณะอาคารในชุมชนที่มีการไล่ระดับสูงต่ำลดหลั่นกันและเสน่ห์ของความไม่เป็นระเบียบ มาใช้ออกแบบรูปแบบของโรงแรม รูปแบบภาพรวมของโรงแรมจึงแตกต่างจากโรงแรมทั่วไป ไม่ได้เป็นแท่งเป็นก้อนทึบตันที่มีโถงทางเดินตรงกลางและห้องพักเรียงรายซ้ายขวา เมื่อเดินผ่านจะรู้สึกมืดทึบ อึดอัด การออกแบบโดยแยกก้อน mass อาคารที่เหลื่อมสลับกันยังส่งประโยชน์ในการแทรกพื้นที่สีเขียว เปิดพื้นที่เป็นช่องรับลมและแสงธรรมชาติได้มากขึ้นทั้งบริเวณโถงทางเดินและห้องพักอีกด้วย
- โรงแรมที่สะท้อนประวัติศาสตร์ : สถาปัตยกรรมหมู่ตึกแถวในชุมชนริมน้ำจันทบูร แสดงถึงประวัติศาสตร์ของจันทบุรีที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกและจีน ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของไทย โดยมีรูปแบบของบ้านขนมปังขิงที่ค่อนข้างโดดเด่นสะดุดตา จึงได้มีการออกแบบโดยนําองค์ประกอบสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนริมน้ำจันทบูรเช่น รูปทรงบานหน้าต่างลวดลายฉลุซี่ระแนง และซุ้มโค้ง มาปรับใช้โดยคลี่คลายรายละเอียดแบบดั้งเดิมมาสอดแทรกเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม เพื่อเชื่อมโยงบรรยากาศและความรู้สึกจากอดีตสู่ปัจจุบัน ของชุมชนเมืองประวัติศาสตร์สู่อาคารโรงแรมสมัยใหม่
- โรงแรมที่หายใจร่วมกับธรรมชาติ : จากแนวคิดเรื่องการ ” อยู่สบาย ” ได้ออกแบบผังอาคารให้มีการแทรกพื้นที่สีเขียว มีช่องเปิดโล่งให้ผู้คนได้สัมผัสอากาศ แดด ลม ฝน เน้นการเข้าถึงของแสงธรรมชาติการไหลเวียนของอากาศ การพัดผ่านของลมเย็นสบาย มีการออกแบบให้ทุกพื้นที่ในโรงแรมและห้องพักทุกห้องมีช่องหน้าต่างมากกว่า1ด้าน เพื่อได้แสงสว่างและระบายอากาศได้เต็มที่สามารถพักอยู่ได้อย่างสบายได้โดยไม่ต้องเปิดไฟและเครื่องปรับอากาศ เป็นการประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง
เนื่องจากสภาพอากาศเมืองจันทบุรีเรียกได้ว่าฝน8แดด4 ตัวโรงแรมได้ออกแบบชายคาหลังคายื่นยาวเพื่อกันแดดกันฝน ระนาบบล็อกช่องลมบริเวณทางเดินช่วยกันความร้อนเข้าสู่อาคาร และยังช่วยทำให้เกิดแสงเงาตกกระทบที่น่าสนใจ
แม้จะออกแบบอาคารให้กันแดดกันฝน ในขณะเดียวกันสายฝนก็นับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง การออกแบบskylight ในส่วนต้อนรับและห้องอาหาร ก็สร้างความรู้สึกชุ่มฉ่ำให้แก่ผู้คนที่นั่งอยู่ภายในเหมือนได้ใกล้ชิดกับสายฝน นอกจากนี้ยังมีการใช้ประโยชน์จากฝนที่ตกค่อนข้างเยอะ โดยมีการออกแบบระบบการกักเก็บนฝนไว้ใช้รดน้ำต้นไม้ต่อไป
- โรงแรมที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน : คำนึงถึงความเชื่อมต่อกับบริบทเมือง สัดส่วนอาคารไม่กดข่มอาคารเก่ารอบข้างซึ่งสูง 2-3ชั้น อาคารโรงแรมที่ออกแบบสูง 4 ชั้นแบบลดหลั่นระดับ จึงกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน อีกทั้งไม่ได้กั้นรั้วรอบขอบชิด สามารถมองเห็นกันและกันระหว่างภายนอกและภายใน ไม่แบ่งแยกกัน แขกที่พักโรงแรมมองเห็นชุมชนโดยรอบเป็นวิว และคนที่สัญจรผ่านไปมาก็มองเห็นพื้นที่สีเขียวในโรงแรมเป็นวิวได้เช่นกัน หรือแม้กระทั่งขณะที่เดินบนระเบียงทางเดินด้านบนอาคารที่เป็นลักษณะกึ่งภายในกึ่งภายนอก ก็ยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศบริบทโดยรอบของเมือง เกิดปฏิสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันไปตั้งแต่ห้องพัก-โถงทางเดิน-พื้นที่สีเขียวในโครงการ-บรรยากาศของชุมชน
- โรงแรมที่มีส่วนร่วมกับสังคม : นํางานคราฟของชุมชนต่าง ๆ มาใช้ตกแต่งในโรงแรม เช่นเสื่อจันทบูร ได้มีการออกแบบพื้นที่เพื่อให้สามารถจัดกิจกรรมทางสังคมได้ มีพื้นที่ Coworking Space ให้คนจันมาใช้ทำงานและพบปะพูดคุยกันได้เจ้าของโครงการยังได้มีการเลือกอาหารท้องถิ่นจากชุมชนมาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของผู้ที่เข้ามาพักโรงแรม
- โรงแรมที่พัฒนาอย่างยั่งยืน โรงแรมที่นําวัสดุกลับมาใช้ใหม่ : ที่ดินบริเวณที่ตั้งโรงแรมเป็นที่ดินของตระกูลเจ้าของโครงการมายาวนาน เดิมก่อนสร้างโรงแรม พื้นที่นั้นเป็นที่ตั้งของบ้านไม้เก่าของครอบครัว เมื่อตัดสินใจสร้างโรงแรม จึงตั้งใจนําไม้เก่าจากบ้านเดิมมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมด้วย ดังจะเห็นได้จากส่วนต่าง ๆในโรงแรม เช่น ไม้ตกแต่งฝ้า ผนัง ชั้นวางของ
โรงแรมประหยัดพลังงาน : จากการออกแบบให้อยู่สบายโดยการระบายอากาศตามธรรมติและการเข้าถึงของแสงแดด ทำให้โรงแรมประหยัดพลังงานได้จากการลดการใช้เครื่องปรับอากาศและการเปิดไฟฟ้าแสงสว่าง
โรงแรมที่คิดถึงอนาคต : ได้มีการออกแบบพื้นที่บนดาดฟ้าอาคารรวมถึงเตรียมงานระบบไว้แล้วสำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในอนาคต อีกทั้งยังได้ออกแบบพื้นที่บนอาคารไว้สำหรับโครงการสวนผักเพื่อนำมาใช้ประกอบอาหารบริการแขกในโรงแรมแบบครบวงจรอีกด้วย
โรงแรมที่นึกถึง Universal Design : สำหรับแขกที่มาพักเป็นกลุ่มครอบครัว โรงแรมได้ให้ความสำคัญของการออกแบบสิ่งอํานวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุและผู้ใช้รถเข็น จึงได้ออกแบบพื้นที่เตรียมไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถเฉพาะสำหรับผู้ใช้รถเข็นขึ้นลงได้สะดวก ทางลาดลิฟต์ห้องน้ำที่มีขนาดเหมาะสมและติดตั้งราวจับช่วยพยุง
- แนวความคิดห้องพัก จากความตั้งใจให้ผู้อยู่สัมผัสถึงความ “อยู่สบาย” และหายใจร่วมกับธรรมชาติได้ออกแบบให้มีช่อง
หน้าต่างจำนวนมาก หลายด้าน เพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ รับลมเย็นสบาย แสงแดดเข้าถึงเพื่อฆ่าเชื้อโรค และระบายอากาศได้ดีไม่อับชื้น ตัวห้องพักมีขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อให้มีความรู้สึก cozy อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ในบางห้องยังได้ออกแบบเป็นฝ้าจั่ว เพื่อสะท้อนลักษณะของบ้านไทย ออกแบบพื้นบริเวณเตียงนอนยกสูงจากพื้นห้องลักษณะคล้ายตั่งแทนการใช้เตียงจริง คล้ายกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทยสมัยก่อนในสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น เพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสบรรยากาศการนอนที่ต่างออกไป อีกทั้งทางโรงแรมยังใช้ฟูกขนาดนอนคนเดียว ซึ่งสามารถปรับรูปแบบการนอนได้อย่างยืดหยุ่น โดยโดยเลื่อนให้ฟูกห่างกันหรือชิดกันก็ได้นอกจากนี้ฟูกบริเวณ daybed ริมหน้าต่างห้อง ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนมาเป็นที่นอนเพื่อให้พัก3คนได้อีกด้วย
PROJECT DATA
Name of the Project : The Motifs Eco Hotel Chantaburi
ชื่อโครงการ: โรงแรม เดอะ โมทีฟส์อีโค่ โฮเทล จันทบุรี
Address of the Project : 15 ซอยท่าแฉลบ1 ถนนท่าแฉลบ ตําบลตลาด อําเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
Project Completion Date : 2564
OWNER : บริษัท จิตต์โกศล จํากัด
Architect : บริษัท อีโค่อาร์คิเทค จํากัด
Lead Architect’s Name : คํารน สุทธิ
Other Substantial Architects in Project Team : วริษฐา พรหมาสา
CONSULTANTS :
Structure Engineer : สมศักดิ์ พรมศรี , ปันยา ชูเมือง
M&E Engineer : จํานาน คําคง